RSS

Monthly Archives: สิงหาคม 2012

เยอรมันเชฟเฟิร์ด(German Shepherd)

@@@ ลักษณะทั่วไป @@@
…….สิ่งที่ประทับใจของผู้ที่ได้พบเห็นเยอรมันเช็พเพอดที่ดีคือ ความแข็งแรงว่องไว เต็มไปด้วยกล้าม
เนื้อตื่นตัวและมีชีวิตชีวา มองโดยรวมแล้วจะกลมกลืนและได้สัดส่วนกันระหว่างส่วนหน้าและส่วนท้าย ตัวจะยาวกว่าส่วนสูง ลำตัวลึก เส้นรอบตัวจะเป็นเส้นโค้งที่กลมกลืนแทนที่จะเป็นเหลี่ยมมุม มีขนาดค่อนข้างใหญ่และอ่อนแอ ให้ความรู้สึกไม่ว่าจะอยู่นิ่งหรือเคลื่อนไหวถึงความกระชับของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนที่อย่างนุ่มนวล

@@@ ความเป็นมา @@@
…….มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมัน มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “อัลเซเชี่ยน” ผู้คนนับพันนับหมื่นที
ต้องอยู่ในโลกมืด ได้อาศัยเจ้าเยอรมันเช็พเพอดนี่แหละที่คอยเป็นพี่เลี้ยงนำทางไหนต่อไหนได้ พิทักษ์สันติราษฎร์ในเยอรมันนี แคนาดา ตามตรอกซอกซอยของบัลติมอร์ หรือในสวนสาธารณะของไฮด์ปาร์คที่มืดสลัว ไปด้วยม่านหมอกในใจกลางกรุงลอนดอน

…….ย่อมรู้ดีว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานรักษากฎหมาย ที่ไม่ย่นระย่ออย่างใดทั้งสิ้น เขาทำหน้าที่เฝ้าเหมืองเพชรในคิมเบอร์ลี่ย์ก็ได้ เฝ้าโรงเรียนในนิวยอร์คก็ได้ หรือให้เฝ้าฐานทัพอากาศที่ทริโปลีก็ได้ ไม่มีใครสามารถคำนวณได้ว่าสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด ได้ช่วยชีวิตคนไว้เท่าไรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่สอง โดยที่การดมกลิ่นหาทหารบาดเจ็บบ้าง ถือสารและลำเลียงเวชภัณฑ์บ้าง คอยเตือนหน่วยลาดตระเวนในป่าต่อการถูกซุ่มโจมตีบ้าง ตลอดจนการตรวจรักษาแนวชายฝั่งทะเลเพื่อกันการก่อวินาศกรรม และค้นหาชาวบ้านที่ถูกซากปรักหักพังทับถมอยู่เนื่องจากการถูกระเบิดทางอากาศ ในยามไม่มีศึกสงคราม มันก็ทำงานเป็นการกุศล

…….เนื่องจากจมูกที่ไวสามารถนำคนค้นหาพวกที่ถูกหิมะถล่ม ฝังเอาไว้ในเทือกเขาแอลป์ของสวิส ในปัจจุบันสุนัขพันธุ์นี้มีรูปร่างที่สวยงาม เฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง เป็นผลมาจากการผสมของสุนัขต้อนแกะหลายชนิดมานับศตวรรษ ซึ่งรวมเอาสุนัขที่มีขนาดย่อมแต่ว่องไวของท้องทุ่งเยอรมันภาคเหนือ กับสุนัขที่โตล่ำสันกว่าของภูมิภาคที่เป็นขุนเขาทางใต้เอาไว้ด้วย แม้จะสิ้นศตวรรษที่ 19 ยุคเลี้ยงแกะของเยอรมันได้สิ้นสุดลง แต่อย่างไรก็ตามนักเพาะพันธุ์สุนัขไม่กี่คนก็ยังพยายามสงวนพันธุ์อันมีคุณสมบัติอันวิเศษในการเลี้ยงแกะเอาไว้

…….ซึ่งนับว่าควรแก่การยกย่องมากที่สุดได้แก่ ร้อยเอกทหารม้าผู้หนึ่งชื่อ มาร์กฟอนสเตฟานิตช์ ซึ่งได้ลงเรี่ยวลงแรงแข็งขัน เพื่อที่จะทำให้สุนัขพันธุ์นี้เข้ามาตรฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1889 และได้เจริญเติบโตเรื่อยมาจนมาเป็นสโมสรสุนัขที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โดยการเพาะพันธุ์สุนัขอย่างเดียว จากความพยายามของร้อยเอกฟอนสเตฟานนิตช์กับพรรคพวก ที่ได้พยายามเสาะหาสุนัขที่ใช้งานได้ดีและฉลาด และแล้วผลที่ได้ก็น่าภาคภูมิใจ ที่เมื่อมองสุนัขพันธุ์นี้ขณะที่มันปฏิบัติตามคำสั่งของนายโดยไม่ผิดพลาด

@@@ ลักษณะนิสัย @@@
…….เยอรมันเช็พเฟิร์ดมีบุคลิกที่เด่นชัดคือ มีการแสดงออกถึงความไม่หวาดหวั่นแต่ก็ไม่ก้าวร้าว มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความกระตือรือร้นและตื่นตัวกระฉับกระเฉง เต็มใจจะรับใช้เต็มที่ในลักษณะของการเป็นเพื่อน เป็นสุนัขเฝ้าบ้านนำทางผู้ที่อยู่ในโลกมืด เป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ หรือทำหน้าที่อารักขา สุนัขจะไม่ขี้ขลาดหรือหลบอยู่หลังผู้เป็นเจ้านาย ไม่ควรจะอ่อนไหว ไม่มองไปรอบๆ หรือแหงนหน้ามอง ไม่แสดงอาการตื่นตระหนก โดยจะหางตกเมื่อได้ยินเสียงหรือมองเห็นสิ่งแปลกๆ หากสันขมีอุปนิสัยดังกล่าวข้างต้นจะถูกตัดสินว่ามีความบกพร่องอย่างร้ายแรง สุนัขจะต้องยอมให้กรรมการตรวจฟันและลูกอัณฑะ ถ้าหากสุนัขกัดกรรมการจะต้องถูกไล่ออกจากสนามประกวด สุนัขที่อยู่ในอุดมคติควรที่จะสามารถใช้งานในลักษณะที่ไม่หยิบโหย่ง ผสมผสานกับลำตัวและการก้าวย่างที่เหมาะกับงานการที่ทำ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน

@@@ การดูแล @@@
…….เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องการการดูแลเอาใส่ใจ เขาเป็นสุนัขที่ร่าเริง และต้องการสิ่งเร้าทางใจอยู่บ้าง ดังนั้นการพาเดินควบคู่กับการฝึก เช่นการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งหรือ ให้ไปเก็บลูกบอลที่ปาออกไปเป็นประจำ จะเพิ่มคุณภาพชีวิตของสุนัขได้ดี การตัดแต่งขนเพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ

@@@ ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม @@@
…….ผู้เหมาะสมที่จะเลี้ยง เยอรมัน เชพเพิร์ด คือคนที่สามารถสั่งและควบคุมสุนัขของเขาได้ และในทางกลับกันก็ต้องให้ความเคารพในตัวสุนัขด้วย คนเหล่านี้ควรจะร่าเริง และมีความสุขกับสุนัขของเขาโดยปราศจากอาการหัวเสียหรือคาดหวังให้เป็นสุนัขขี้อ้อน

ที่มา : http://www.dogilike.com/breeds/30/เยอรมันเช็พเฟิร์ด.php

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว Uncategorized

 

มนุษย์หมาป่า (Werewolf)

…….มนุษย์หมาป่า (Werewolf) เป็นมนุษย์ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนหรือแปลงร่างของตนเองในรูปของหมาป่า ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ที่เจอกันบ่อยคือ เป็นทั้งหมาป่าและคนในขณะเดียวกัน คือทรงตัวด้วย 2 ขาได้เหมือนคน หรือส่วนลำตัวเป็นคน นอกจากนั้ไม่ว่าหัว แขน ขา ก็มีลักษณะเหมือนหมาป่าไปหมด อีกประเภทคือ อยู่ในร่างใดร่างหนึ่ง เพียงร่างเดียว คือปกติก็เป็นคนเต็มตัว แต่พอกลายร่างก็เป็นหมาป่าทั้งตัว ไม่มีความเป็นมนุษย์ให้เห็นเป็นต้น

…….มนุษย์หมาป่า เป็นผีจำพวกเดียวกับแวมไพร์และมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ ดื่มกินเลือดและเนื้อของมนุษย์และสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยที่เชื่อว่า บุคคลที่เป็นมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง อาจจะแปลงร่างเป็นหมาป่าทั้งตัวเลยก็ได้ หรือครึ่งคนครึ่งหมาป่า หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่น เช่น หมี เป็นต้น

………………………………………….@@@ วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่า @@@………………………………………..

…….โดยที่วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่าจะคล้าย ๆ กับแวมไพร์ โดยตอกด้วยลิ่ม หรือเผา ที่เห็นบ่อยโดยเฉพาะในภาพยนตร์ก็คือ การยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงินหรือกระสุนผ่านการปลุกเสก มนุษย์หมาป่าก็แพ้แสงแดด และถูกตามล่าเหมือนกับแวมไพร์

…….เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่านั้น มีที่มาจากความกลัวหมาป่า โดยเฉพาะหมาป่าที่พบในยุโรป ที่มีลำตัวขนาดใหญ่ และมักออกล่าเป็นฝูง โดยอาจดักซุ่มโจมตีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงในเวลากลางคืน ผนวกกับความเชื่อและความหวาดกลัวบุคคลนอกสังคม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ อย่างแม่มดหรือแวมไพร์ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เรื่องมนุษย์หมาป่านั้น แท้จริงแล้วคือ สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มีอยู่ในตัวมนุษย์

……………………………………..@@@ การถ่ายทอดการเป็นมนุษย์หมาป่า @@@……………………………………

…….การเป็นมนุษย์หมาป่า นั้นเชื่อว่า ถ่ายทอดได้หลายทาง ทางหนึ่ง คือ การดื่มน้ำจากแก้วเดียวกับแก้วที่มนุษย์หมาป่าดื่ม บางครั้งคนธรรมดาก็โดนคำสาปให้เป็น มนุษย์หมาป่า เชื่อกันว่า มนุษย์หมาป่า ถ่ายทอดถึงลูกหลานได้ นักปราชญ์ชาว สวิส ชื่อ พาราเซลซุส ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 21 คิดว่ามนุษย์หมาป่า เป็นการกลับมาของดวงวิญญาณของคนที่มีบาป และเคยทำความชั่วไว้ในขณะมีชีวิตอยู่

…….ลักษณะของคนที่เป็น มนุษย์หมาป่า สังเกตได้ คือ มีขนตามร่างกายมากผิดปกติ หรือมีลักษณะการเดินแปลก ๆ บางคนอยากเป็น มนุษย์หมาป่าและใช้เวทมนตร์คาถาที่มีเฉพาะให้กลายเป็นมนุษย์หมาป่าต้องประกอบพิธีกรรมเริ่มด้วยการเปลื้องผ้าร่ายมนต์ สวมใส่เข็มขัดและหน้ากากขนหมาป่า ไม่ว่าการกลายร่างเป็น มนุษย์หมาป่าจะเป็นไปโดยตั้งใจหรือไม่ มันก็จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลากลางคืนในคืนพระจันทร์เต็มดวง

…….ในคืนนั้นจะมีการล่าเกิดขึ้นเหยื่อที่ถูกล่ามีทั้งมนุษย์และสัตว์ โดยมากจะเป็นเพศหญิงที่ยังอยู่ในวัยแรกรุ่น เหยื่อถูกทำร้ายและถูกประทุษร้ายทางเพศด้วย มนุษย์หมาป่า ที่ถูกจับได้จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เมื่อถูกฆ่าตายแล้ว แต่ถ้าการเป็น มนุษย์หมาป่า นั้นไม่ได้เต็มใจจะเป็นก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยการเสียเลือด 3 หยดหรือถูกเรียกชื่อจริงในขณะที่ยังเป็น หมาป่า อยู่ เชื่อว่าไม้บางชนิดสามารถป้องกัน มนุษย์หมาป่าได้ เช่น กิ่งมะกอก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วไม่มีอะไรหยุดพวกมันได้ ปี โทษคือ ประหาร โดยการเผา

ที่มา : http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/มนุษย์หมาป่า

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว Uncategorized

 

ชีวิตใหม่ของ…นกอินทรี

คนส่วนใหญ่มักจะรู้อยู่แล้วว่า…

นกอินทรี มี สายตาที่คมชัด มันสามารถมองเห็นเหยื่อได้อย่างชัดเจนในระยะไกล

นกอินทรี มี จะงอยปากและกรงเล็บ ที่แหลมคมและแข็งแกร่ง ซึ่งมันใช้ในการล่าเหยื่อและต่อสู้

นกอินทรี มี ปีกที่ใหญ่และแข็งแรง อันจะทำให้มันสามารถบินได้สูง รวดเร็ว และสามารถร่อนบินได้นานและเป็นระยะทางไกล

นกอินทรี มี รูปร่างที่สง่างาม และน่าเกรงขาม จนทำให้มันถูกเรียกว่า เจ้าเวหา หรือ ราชาแห่งนก

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า…

นกอินทรี นั้น เป็นนกที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก เนื่องจากมันจะมีอายุยืนนานถึง 70 ปี เลยทีเดียว

แต่การที่มันจะกลายเป็นนกที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกได้นั้น

มันก็ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรค์ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของมัน เมื่อตอนที่มันอายุ 40 ปี

ทั้งนี้ก็เพราะในช่วงที่มันอายุ 40 ปี นั้น…

จะงอยปาก ของมันจะยาวและงุ้มงอมาก จนไม่สามารถใช้ จิกและฉีก เหยื่อหรือสตรูของมันได้เช่นเคย

เช่นเดียวกับ กรงเล็บ ของมัน ที่ก็จะยาวและงุ้มงอจนเกินไป

นอกจากนั้น ขนที่ปีกและลำตัว ของมัน ก็จะยาวและดกหนา จนทำให้หนักและเป็นอุปสรรคต่อการบินของมันด้วยเช่นกัน

ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและแสนยากลำบากนี้ กินเวลาถึง 150 วัน หรือ ประมาณ 5 เดือน

มันเป็นช่วงวิกฤตของชีวิต ที่มันจะต้องเลือก ระหว่างการ “ยอมแพ้” หรือ “สู้ต่อไป”

แน่นอนว่า…

ถ้ามันยอมปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นเดิมโดยไม่ทำอะไร

มันก็จะไม่สามารถบินและใช้กรงเล็บกับจะงอยปาก จับเหยื่อมาเป็นอาหารได้

และมันก็ต้องตายไปในที่สุด

แต่ถ้ามันตัดสินใจ “สู้”

มันก็ต้องพบกับความยากลำบากที่แสนสาหัสเช่นกันเพื่อสร้าง ชีวิตใหม่ ของมัีนเองขึ้นมา

เพราะมันต้องบินขึ้นไปบนภูเขาให้สูงที่สุด

เพื่อชุบชีวิตของมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง…เพียงลำพัง

และเมื่อมันขึ้นไปอยู่บนหน้าผาหินที่สูงชัน

มันก็จะเริ่มต้นสร้างตัวมันเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยการ

จิกเอา ขนปีกและขนที่ลำตัว อันหนาเตอะของมันออกทิ้งทีละเส้นๆ

แน่นอนว่าการทำเช่นนั้น ย่อมจะทำให้มันไม่สามารถจะบินได้อีก จนกว่าขนเส้นใหม่จะยาวขึ้นมาทดแทน

จากนั้นมันก็จะเอา จะงอยปากที่งุ้มงอจนมากเกินไปแล้วของมัน จิกเคาะ กับก้อนหินบนหน้าผานั้น

ครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งที่มันต้องเผชิญก็คือ ความเจ็บปวด ทรมาน จากการทำเช่นนั้นนั่นเอง

มันจะจิก จิก แล้วก็จิกก้อนหินต่อไป นับพัน นับหมื่นครั้ง

จนกว่า จะงอยปากที่งุ้มงอของมันนั้น จะหลุดออกมา

จากนั้น มันก็จะใช้ กรงเล็บอันงุ้มงอของมัน ขยุ้มจับ กับก้อนหิน ครั้งแล้วครั้งเล่า

จนกว่ากรงเล็บทั้งหมดของมันจะหลุดออกมาเช่นกัน

แน่นอนว่า กระบวนการทั้งหมดนี้ย่อมต้องใช้เวลาที่ยาวนาน

และมันต้องพบกับความเจ็บปวด ทรมาน อย่างแสนสาหัส

และเมื่อช่วงเวลา 150 วัน นี้ผ่านพ้นไป รางวัลที่มันได้รับก็คือ

จะงอยปากและกรงเล็บ ซึ่งงอกออกมาใหม่ ที่แหลมคมและสวยงาม

และขนปีกอันใหม่ที่เบาบางและสวยงามวาววับ

ซึ่งมันจะได้ใช้ของขวัญอันล้ำค่าเหล่านี้ นำพา “ชีวิตใหม่” ของมัน ต่อไปอีก 30 ปี

ชีวิตที่ผ่านการทดสอบครั้งสำคัญ

ชีวิตที่ทรงคุณค่าและสง่างาม

ชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นด้วยตัวของมันเอง

กับการโผบินขึ้นสู่เวหาและท้องฟ้าสีครามอีกครั้งหนึ่ง…

……………………………………………………………….

ที่มา : http://www.google.co.th/imgres?q=นกอินทรี

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว Uncategorized

 

ออร์ชอส ไอส์แลนด์ บ้านลอยน้ำ สุดหรู

ออร์ชอส ไอส์แลนด์ บ้านลอยน้ำ ได้รับการออกแบบให้มีกลิ่นอายของบ้านหรูหราคละเคล้าอารมณ์เรือซูเปอร์ยอชท์ มีขนาด 20×37 เมตร พื้นที่ใช้สอย 1,000 ตารางเมตร 3 ชั้น 6 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว อ่างจากุซซี่ พร้อมบาร์เครื่องดื่ม มุมปาร์ตี้ สาธารณูปโภคต่างๆ ใช้นวัตกรรมแบบยั่งยืน โดยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานลม จึงผลิตพลังงานได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

…………………………………………………ออร์ชอส ไอส์แลนด์………………………………………………

…………………………………………..ภายใน บ้านลอยน้ำ ออร์ชอส ไอส์แลนด์…………………………………………..

ที่มา : http://travel.mthai.com/world-travel/32881.html

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว The Future

 

การคิดเชิงอนาคต ( Futuristic Thinking )

…….การมองอนาคต (foresight) เป็นกระบวนการที่ดำเนินอย่างเป็นระบบ ในการมองไปในอนาคตของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคม เพื่อการส่งเสริมให้เอื้อประโยชน์สูงสุดแก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การมองอนาคตไม่ใช่การทำนาย (forescast) ที่สันนิษฐานอนาคตเพียงรูปแบบเดียว หลักสำคัญของการมองอนาคตคือ การดำเนินการที่เป็นระบบ มีขั้นตอนชัดเจน และมีส่วนร่วมจากผู้ที่มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ (stakeholders) เพื่อให้เข้าใจถึงแรงผลักดันต่างๆ ทั้งที่เห็นชัดและที่ยังไม่เห็นชัด ซึ่งจะกำหนดรูปแบบของอนาคต และทำให้เห็นลู่ทางที่จะต้องกระทำในวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
ปัจจุบันการมองอนาคตได้รับการยอมรับในหลายประเทศว่า เป็นวิธีการที่มุ่งเน้นความ พยายามของชุมชนชาววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะนำไปสู่การสร้างความมั่งคั่งและการยกระดับ คุณภาพชีวิต เหตุผลพื้นฐานคือเป็นที่ตระหนักกันโดยทั่วไปแล้วว่าว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ อาจพลิกโฉม หน้าอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ สังคม และสภาวะแวดล้อมในระยะหลายทศวรรษที่จะมาถึง ซึ่งพัฒนา การของเทคโนโลยีเหล่านี้ ต้องพึ่งพาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างมาก ดังนั้น ถ้าสามารถระบุ เทคโนโลยีที่สำคัญซึ่งอยู่ในระยะเริ่มพัฒนาได้ รัฐบาลและหน่วยงานอื่นๆ ก็จะสามารถจัดสรร ทรัพยากรเพื่อการวิจัยในสาขาเชิงยุทธศาสตร์เหล่านั้นได้ เพื่อให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนั้นๆ อย่าง มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

…….การคิดเชิงอนาคต คือ ความสามารถในการฉายภาพแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการใช้หลัก การคาดการณ์ที่เหมาะสม การคิดเชิงอนาคตมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการประเมินสถานการณ์ เพื่อการวางแผน และเตรียมตัวสำหรับอนาคต เพื่อการเตรียมทรัพยากรต่างๆ ให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตทั้งระยะสั้น และระยะยาว นับเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทยที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากนัก แม้ในปัจจุบันจะเริ่มมีการพัฒนาวิธีการคิดแนวนี้ในบางกลุ่มคนบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มแวดวงนักธุรกิจ นักบริหาร นักวางแผนและนโยบายต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเข้าใจและเตรียมบุคลากรให้มีทักษะด้านการคิดเชิงอนาคตมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของยุคสังคมในอนาคต

…….หลักสูตร “การคิดเชิงอนาคต” มีส่วนช่วยพัฒนากระบวนการคิดของบุคคลให้มีทัศนคติและมุมมองที่กว้างขวาง คมชัดยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถฉกฉวยประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้น นำไปสู่อนาคตที่ต้องการหรือพึงประสงค์ รวมทั้งให้สามารถหลีกเลี่ยง บรรเทาหรือป้องกันไม่ให้อนาคตที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น

ที่มา : http://www.ifdtraining.com/index.php?components=course&id_courselv2_main=64

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว The Future

 

– เครื่องแบบรบของทหารสหรัฐปี 2025 (พ.ศ. 2568) –

……………. กองทัพบกสหรัฐ ได้เสนอเครื่องแบบรบต้นแบบของทหารในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า ในระหว่างการประชุมวิทยาศาสตร์กองทัพบกครั้งที่ 24 ซึ่งเครื่องแบบดังกล่าวจะเป็นชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้าและประกอบด้วยหมวกเหล็กรุ่นใหม่ที่ขนาดกระทัดรัด มีลักษณะแบบเดียวกับทหารในหนังนวนิยายวิทยาศาสตร์

…………….วัสดุที่ใช้ในประกอบเครื่องแบบผลิตด้วยนาโนเทคโลโลยี ที่ทำให้ทหารที่สวมใส่สามารถที่จะปรับตนเองให้เข้าได้ในทุกสภาวะแวดล้อมแบบเดียวกับกิ้งก่า
…………….หมวกเหล็กจะเป็นส่วนประกอบหลักของเครื่องแบบรบที่ทำให้เกิดการปฏิบัติการทุกชนิด กล้องวีดีโอขนาดเล็กจะให้ส่งภาพของสถานการณ์ทั้ง 360 องศา เครื่องตรวจจับที่ติดตั้งไว้ภายในหมวกจะสร้างระบบเสียงสามมิติให้ทหารสามารถแยกแยะและปรับระดับเสียงที่ต้องการ

…………….ระบบการแปลภาษาที่สมบูรณ์จะได้รับการติดตั้งเช่นกัน เพื่อให้ทหารสามารถเข้าใจภาษาอื่นและพูดภาษานั้นได้ในเวลาเดียวกัน กล้องตรวจจับเวลากลางคืนจะมีขนาดเล็กเท่าดินสอที่อยู่ในหมวกเหล็ก แผนที่และข่าวสารสถานกาณ์จะฉายให้ทหารได้รับทราบบนจอรับภาพที่อยู่บนกระจังหน้าหมวกเหล็ก ในทางกลับกันภาพและเสียงที่ทหารได้ยินก็จะถูกส่งกลับไปยังกองบัญชาการในเวลาจริงเช่นกัน
…………….การควบคุมทุกอย่างสามารถทำโดยเสียงสั่งการของทหารผู้นั้น เช่น พูดว่า ให้แสดงภาพของบัดดี้หรือสหายรบ ภาพดังกล่าวก็จะปรากฏบนหน้าจอให้เห็น เทคโนโลยี่ภาพเสมือนยังจะช่วยนำทางให้ทหารในสภาพการต่าง ๆ ได้ด้วยการฉายภาพแผนที่ของสมรภูมิรอบตัวลงบนหน้าจอเช่นกัน

…………….ระบบตรวจจับภัยคุกคามและการให้การช่วยเหลือ

…………….ระบบตรวจจับความร้อนจะถูกสอดแทรกเข้าไปในเนื้อผ้าสังเคราะห์เพื่อควบคุมระดับอุณหภูมิตามสภาวะแวดล้อมขณะนั้น อุปกรณ์ออกซิเจนเพื่อการหายใจจะถูกติดตั้งอยู่ด้านหลังของทหารเพื่อผลิตอากาศบริสุทธิตลอดเวลา ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากป้องกันไอพิษอื่นเพิ่มเติมต่อไป และไม่ว่าทหารจะเปิดหรือยกกระจังด้านหน้าขึ้นหรือเอาหมวกเหล็กออกถ้ามีการสูดเอาสารพิษเข้าไปเมื่อใด อุปกรณ์ตรวจจับที่อยู่ในเครื่องแบบก็จะตรวจพบได้ทันทีและปล่อยแคปซูลที่ติดมาด้วยล้างพิษโดยรอบและฉีดสารเข้าร่างกายของทหารเพื่อรักษาไปพร้อมกัน
…………….จากส่วนของสะโพกต่ำลงไป ระบบโครงสร้างที่ติดตั้งจะทำให้ทหารสามารถแบบน้ำหนักได้สองหรือสามเท่าของน้ำหนักตนเอง โดยรู้สึกเพียงเหมือนกันการเคลื่อนที่ปกติทั่วไป ระบบดังกล่าวเป็นเทคโนโลยี่กล้ามเนื้อ เอ็กซ็โอ ที่จะช่วยเพิ่มสมรรถนะความแข็งแรงของทหารให้สูงขึ้น
…………….แนวความคิดในการใช้เทคโนโลยีเกราะเหลวของเครื่องแบบรบได้รับการพิจารณาเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติของเกราะเหลวดังกล่าวจะเคลื่อนที่อ่อนตัวไปตามการเคลื่อนไหวปกติและจะจับตัวแข็งทันทีที่ได้รับการปะทะที่รุนแรงและรวดเร็วจากวัสดุภายนอกเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนที่ของวัสดุนั้น

…………….อย่างไรก็ตามเครื่องแบบรบดังกล่าวยังเป็นเพียงแนวความคิดต้นแบบที่ต้องมีการค้นคว้าพัฒนาต่อไปก่อนที่นำมาใช้ได้จริงในอีก 20 ปีข้างหน้า

ที่มา : http://www.thaiairsoftgun.com/board/index.php?topic=60123.0

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว The Future

 

10 อันดับกีฬาที่ฮิตที่สุด

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว กีฬา

 

15 ภาพยนตร์ไทยสุดฮิตแห่งปี 2554

ในรอบปี2554 มีภาพยนตร์ไทยเรียงหน้าเข้าโรงฉายให้คอหนังได้ชมตามแนวที่แต่ละคนชื่นชอบ และหลายเรื่องฮอตฮิตเป็นกระแสพูดถึง ขณะที่ภาพยนตร์บางเรื่องดังจนแจ้งเกิดให้กับดาราหน้าใหม่ ขณะที่บางเรื่องได้นักแสดงหน้าเก่าแสดงนำแต่ก็สามารถเรียกคนดูและเป็นกระแสให้พูดถึงเช่นกัน … เอ้า! ว่าแต่ภาพยนตร์เรื่องไหนที่ฮอตฮิตติดอันดับเรตติ้งดี และเป็นกระแสมากที่สุด วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมรายชื่อมาให้อ่านกันอีกครั้งค่ะ อยากรู้ว่ามีเรื่องไหนบ้างตามไปดูกันเลย

เท่ง-โหน่ง จีวรบิน

เท่ง-โหน่ง จีวรบิน

เริ่มต้นปีด้วยภาพยนตร์สุดฮาแต่แฝงไปด้วยข้อคิดธรรมะสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “เท่ง-โหน่ง จีวรบิน” ที่ถูกนำมาเสนอโดยสุดยอดตลกระดับแถวหน้าของเมืองไทย เท่ง เถิดเทิง และ โหน่ง ชะชะช่า เนื้อหาของภาพยนตร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมณเพศที่จะต้องเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ แต่พลาดท่าตกรอบเครื่องบิน ทำให้ต้องมาอาศัยเครื่องบินของเศรษฐีอันธพาลสุดเพี้ยน ซึ่งระหว่างการเดินทางได้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในการดำเนินเรื่องของ เท่ง-โหน่ง จีวรบิน ได้มีการสอดแทรกธรรมะเข้าไว้หลาย ๆ จุด และภาพยนตร์เรื่องนี้มีเพลงประกอบสุดฮิตอย่างเพลง “กินตับ” ที่เป็นกระแสดังไม่แพ้ภาพยนตร์เลยทีเดียว เพราะไม่ว่าหันไปทางไหน เราก็มักจะได้ยินคนร้องวลีเด็ดของเพลงนี้ว่า “เดี๋ยวพี่พาไปกินตับ ตับ ตับ ตับ”

ปัญญา เรณู

ปัญญา เรณู

มาที่ภาพยนตร์น้ำดี ที่เอาความใสของเหล่าเด็ก ๆ มาเป็นตัวชูโรง นั่นคือภาพยนตร์เรื่อง”ปัญญา เรณู” ฝีมือการเขียนบทและกำกับของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงมากฝีมือ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอมิตรภาพในวัยเด็กที่ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ เสนอความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อแบ่งปัน และการช่วยเหลือกันในยามยากของเด็กชาวกรุงฯ และเด็กชนบท แถมยังมีบทพ่อแง่แม่งอนน่ารักใส ๆ ของ ปัญญา และ เรณู มาร่วมด้วยแล้ว ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้จากที่เป็นภาพยนตร์นอกกระแสกลายมาเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แถมตอนนี้มีข่าวมาว่า “ปัญญา เรณู 2” กำลังสร้างสรรค์ผลงานกันอยู่ ก็อย่าลืมให้กำลังใจภาพยนตร์ไทยน้ำดีแบบนี้กันด้วยนะจ๊ะ

เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก

เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก

ต่อกันที่ภาพยนตร์วัยรุ่นที่ได้รับการพูดถึงตั้งแต่ยังไม่เข้าฉายอย่างล้นหลาม สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก” ที่ได้ดาราหน้าใส น้องเก้า จิรายุ มาร่วมเล่นด้วย แถมการแสดงในเรื่องนี้ก็ถือว่ากระชากใจวัยใสจนไปถึงวัยรุ่น (ใหญ่) บรรดาแม่ยกของหนุ่มเก้าไม่น้อย เพราะมีฉากเลิฟซีนสุดกรี๊ดที่หนุ่มเก้าต้องจูบปากกับ โม มนชนก สาวน้อยที่มารับบทเพื่อนรัก ที่กลายมาเป็นรักเพื่อน พร้อมกับความรักของวัยรุ่นอีก 3 คู่ รักแรก, รักข้ามรุ่น และรักต้องรอ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเอาเทศกาลดนตรีมาเป็นจุดรวมของเรื่องราวความรักทั้ง 4 คู่ สะท้อนมุมมองความรักในด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นที่น่าชมอย่างมากทีเดียว

SuckSeed ห่วยขั้นเทพ

SuckSeed ห่วยขั้นเทพ

มาถึงภาพยนตร์เรื่องต่อมา ที่ได้พระเอกหน้าใสคนเดิม เก้า จิรายุ ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบนในช่วงนั้นมาร่วมแสดงด้วยใน “SuckSeed ห่วยขั้นเทพ” ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีทองของ เก้า จริง ๆ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน งานละคร งานภาพยนตร์ งานโชว์ตัว ต่างวิ่งเข้าหาอย่างมากมาย และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้แจ้งเกิดให้กับ พีช พชร จิราธิวัฒน์ ดาราหนุ่มน้อยหน้าใหม่ ที่มาช่วยโกยเรตติ้งให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมด้วย แนท ณัฐชา นวลแจ่ม ลูกสาวคนสวยของ แหลม มอริสัน หรือ วิชัย นวลแจ่ม เจ้าของฉายากีต้าร์คิงส์ นักกีตาร์ระดับตำนานของประเทศไทย และ ธวัช พรรัตนประเสริฐ ที่มาสร้างความสนุกสนานให้กับภาพยนต์ที่จุดไฟฝันให้วัยรุ่นไทยมั่นใจและกล้าทำในสิ่งที่อยากจะทำ…

ตำนานสมเด็จนเรศวรมหาราช 4 ภาคศึกนันทบุเรง

ตำนานสมเด็จนเรศวรมหาราช 3 ภาคยุทธนาวี

ตำนานสมเด็จนเรศวรมหาราช 4 ภาคศึกนันทบุเรง และ ตำนานสมเด็จนเรศวรมหาราช 3 ภาคยุทธนาวี

ภาพยนตร์เรื่องนี้หากไม่กล่าวถึงก็คงจะไม่ได้ เพราะเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี สำหรับ “ตำนานสมเด็จนเรศวรมหาราช 3 ภาคยุทธนาวี” และ “ตำนานสมเด็จนเรศวรมหาราช 4 ภาคศึกนันทบุเรง” ที่ท่านมุ้ย หรือ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ทุ่มทุนทั้งหยาดเหงื่อแรงใจและเม็ดเงินสร้างขึ้นเพื่อประกาศพระปรีชาสามารถของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บุรพมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงกอบกู้เอกราชไทยไม่ให้เป็นเมืองขึ้นของใคร ด้วยทุนสร้างที่สูงและความพยายามของท่านมุ้ยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสวยงามทั้งภาพและฉากของภาพยนตร์ยิ่งใหญ่อลังการ สมกับเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์แห่งปี ประกอบกับได้นักแสดงนำที่มากฝีมือและความสามารถหลายท่าน อาทิ ผู้พันเบิร์ด วันชนะ สวัสดี, จา พนม, พันโทวินธัย สุวารี, นพชัย ชัยนาม, ทราย เจริญปุระ, แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง, สรพงษ์ ชาตรี เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้ง 2 ภาคติดเข้ามาในโผภาพยนตร์สุดฮิต และได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก

ลัดดาแลนด์

ลัดดาแลนด์

สยองขวัญและได้รับความสนใจตั้งแต่ยังไม่เข้าฉายเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “ลัดดาแลนด์” ผลงานการกำกับของ โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ที่เคยผ่านการกำกับภาพยนตร์อย่างเรื่อง โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต และเป็นผู้เขียนบทให้กับภาพยนตร์หลอนประสาทและสะพรึงกลัวมาหลายเรื่อง อาทิ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด, ห้าแพร่ง ตอน ห้องเตียงรวม และรถมือสอง โดยได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง ก้อง สหรัถ สังคปรีชา, ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก มาแสดงนำ สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์มีการนำเอาเรื่องเล่าปากต่อปากจากรุ่นสู่รุ่นของชาวเชียงใหม่ที่กล่าวถึงหมู่บ้านสุดสยองที่เกิดคดีฆาตกรรมอำมหิตขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นชนวนของความสยองขวัญที่เกิดขึ้นกับคนในหมู่บ้านจนทนไม่ได้กับความกลัวและต้องย้ายออกไปทีละหลัง ๆ ซึ่งหลังจากที่กระแสภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้ถูกพูดออกไปในวงกว้างก็ทำให้หลาย ๆ คนเดินทางไปค้นหาและร่วมพิสูจน์หมู่บ้านแห่งนี้ แต่ก็ได้มีผู้รู้ได้ให้ข้อมูลว่าตามจริงแล้ว ลัดดาแลนด์ เป็นสวนรุกขชาติแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของเป็นเศรษฐีใหญ่ของเมืองเลยก็ว่าได้ แต่หลังจากที่ความนิยมลดลง สวนลัดดาแลนด์ก็ได้ถูกทิ้งร้าง จนเป็นที่มาของเรื่องเล่าจากรุ่นสู่รุ่นและได้มาอยู่บนจอเงินในที่สุด

ขอบคุณที่รักกัน

ขอบคุณที่รักกัน

อีกหนึ่งภาพยนตร์รักดี ๆ ที่สะท้อนความรักและความเข้าใจของคนหลากหลายวัย ความปรารถนาดีที่เรียงร้อยผ่านเรื่องราว โดยตระเวนถ่ายทำเก็บภาพบรรยากาศสวยงามทั่วประเทศไทย โดยได้ ปั๊บ โปเตโต้ หรือ พัฒนชัย ภักดีสู่สุข ที่เป็นผู้ร้องเพลง “ขอบคุณที่รักกัน”มารับบทนักแสดงนำของภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องเดียวกับชื่อเพลงของเขา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ปั๊บ จะต้องถ่ายทอดเรื่องราวของพี่ชายคนหนึ่งซึ่งรักน้องสาวที่เป็นโรคออทิสติกของเขาที่รับบทโดย สายป่าน อภิญญา เป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาต้องเดินทางไปกับอาจารย์สอนดนตรีเกือบจะทั่วประเทศไทย แต่เขาก็จะพาน้องสาวของเขาไปด้วยทุกที่ ในระหว่างการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ทำให้พี่ชายคนนี้ได้รับรู้เรื่องราวความรัก ความผูกพันธ์ของคนอีก 2 ครอบครัว ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ดี ๆ ที่ส่งเสริมสถาบันครอบครัว จึงไม่ต้องแปลกใจไปเลยว่าทำไม…ภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงติดโผเข้ามาด้วย

พุ่มพวง

พุ่มพวง

มาถึงภาพยนตร์ที่หยิบเอาอัตชีวประวัติชีวิตนักร้องสาวราชินีลูกทุ่งของไทย พุ่มพวง ดวงจันทร์ มาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ซึ่งในการนำมาทำภาพยนตร์ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ เพราะคราวนี้กล่าวถึงชีวิตรักของพุ่มพวงที่หลายคนไม่เคยทราบกับความรักครั้งแรกก่อนที่จะมาพบรักกับ ไกรสร แสงอนันต์ และมีโซ่ทองคล้องใจคือ น้องเพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์ โดย พุ่มพวง ในเวอร์ชั่นนี้ ได้นำเอานักร้องสาวลูกทุ่งดาวรุ่งดวงใหม่ เปาวลี พรพิมล มารับบทพุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่ง เปา ก็ได้รับคำชมไปไม่น้อยกับการแสดงครั้งแรก ที่เธอได้โชว์พลังเสียงเพราะ ๆ ขับขานเพลงของ พุ่มพวง ได้จับใจคนชม แถมยังมีคนพูดกันว่าภาพที่ เปา ถ่ายเป็นภาพโปสเตอร์หลักในการโปรโมทภาพยนตร์นั้น มีส่วนคล้ายคลึงราชินีลูกทุ่งไม่น้อยเลยทีเดียว และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าแจ้งเกิดให้กับ เปาวลี พรพิมล ให้มาโลดแล่นในวงการบันเทิงอีกคน

บางกอกกังฟู

บางกอกกังฟู

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ถูกจับตามองแห่งปี 2554 คือเรื่อง “บางกอกกังฟู”ภาพยนตร์ที่รวบรวมเอาดาราหนุ่มหล่อขวัญใจแฟนคลับเอาไว้ถึง 4 คนคือ เป้ อารักษ์, โทโมะ วงเคโอติก, แบงค์ วงแบล็ค วานิลลา และ มาริโอ้ เมาเร่อ ร่วมด้วยดาราสาวน้อยหน้าใสขวัญใจของ ป้อง ณวัฒน์ นั่นก็คือ แก้ว วงเฟย์ ฟาง แก้วนั่นเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงเด็กหนุ่ม 4 คน ที่ถูกลักพาตัวโดยแกงค์ขอทานและถูกทำให้พิการทางตา หู ปาก และสมอง จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์ผู้ทรงวิทยายุทธ์ผู้สืบทอดคนสุดท้ายแห่งพรรคจันทรา พาทั้ง 4 คนออกมาจากพวกแก๊งค์ค้ามนุษย์และได้พบกับเด็กผู้หญิงนามว่า กอหญ้า… เด็กทั้ง 5 คนเติบโตมาด้วยกันและได้ฝึกวิทยายุทธ์การต่อสู้จนกระทั่งวันหนึ่ง เด็กชายในกลุ่มคนหนึ่งได้รับจ้างฆ่าคนของพรรคอื่นและถูกจับได้ การต่อสู้และเอาคืนจึงบังเกิดขึ้น และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกของวงการภาพยนตร์ไทยที่มีการนำเสนอเกี่ยวกับกังฟูอย่างเต็มรูปแบบจริง ๆ

รักจัดหนัก

รักจัดหนัก

ภาพยนตร์โรแมนติค ดราม่า “รักจัดหนัก”ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างเช่นเดียวกัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้จั่วหัวภาพยนตร์เอาไว้อย่างขำ ๆ ว่า “เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรให้คำแนะนำผู้ปกครองขณะรับชม!!” เนื้อเรื่องภาพยนตร์เป็นการสะท้อนความรักของวัยรุ่นยุคใหม่ 3 คู่ 3 รส ที่ได้ดารานักแสดงอย่าง รัชพล แย้มแสง (มิวสิค AF4), วรรณิศร เลาหมนตรี (ชะเอม สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก), ศิครินทร์ ผลยงค์, ปลายฟ้า – ศิตา มหารวิเดชากร, อริสสรา เลอมวณ, นภัสสร เอี่ยมเจริญ มาถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่น ทั้งเรื่องราวการพูดคุย ความรัก และเซ็กส์ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้สะท้อนแต่แนวคิดที่แท้จริงของวัยรุ่นในยุคสมัยนี้ไว้เพียงเท่านั้น แต่ยังให้ข้อคิดและมุมมองหลาย ๆ อย่างให้กับทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่เข้าชมได้นำกลับไปขบคิดต่ออีกด้วย

อุโมงค์ผาเมือง

อุโมงค์ผาเมือง

หากจะไม่พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงจะไม่ได้ สำหรับ “อุโมงค์ผาเมือง” จากฝีมือการสร้างและกำกับโดย หม่อมน้อย หรือ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล บุคคลที่คนในวงการบันเทิงให้ความนับถือและฝากตัวเป็นศิษย์อย่างมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการแปลบทประพันธ์ญี่ปุ่นเรื่อง “ราโชมอน” ของพลตรีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกของประเทศไทยผู้ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นฉลองครบรอบ 100 ปี ชาตกาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช โดยเนื้อเรื่องกล่าวถึงมหาฆาตกามคดีแห่งโจรป่า นางบาป และขุนศึก ซึ่งได้นักแสดงลูกหม้อของหม่อมน้อยมาแสดงฝีมือ เช่น อนันดา เอเวอริ่งแฮม รับบทขุนศึกผู้ถูกฆาตกรรม และ พลอย เฌอมาลย์ รับบทแม่หญิงภรรยาของขุนศึก ซึ่งทั้งคู่เพิ่งแสดงฝีมือร่วมกันในภาพยนตร์เรื่องชั่วฟ้าดินสลาย ฝีมือการกำกับของหม่อมน้อยเช่นกัน ร่วมด้วย ดอน เหตระกูล ผู้มารับบทโจรป่า อีกทั้งยังมี มาริโอ้ เมาเร่อ ที่มารับบทพระสงฆ์หนุ่มครั้งแรก, หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา และ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ผู้ซึ่งผ่านมาพบเหตุการณ์มาร่วมไขปริศนาคดีมหาฆาตกามนี้ด้วย

30+ โสด On Sale

30+ โสด On Sale

มาต่อกันที่ภาพยนตร์รักเอาใจสาว ๆ วัยเลข 3 กันหน่อยกับภาพยนตร์เรื่อง “30+ โสด On Sale” ที่ได้สาวพลอย เฌอมาลย์ มารับหน้าที่นักแสดงนำอีกเรื่องหนึ่ง เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของพลอยในวงการภาพยนตร์จริง ๆ ร่วมด้วยพระเอกขวัญใจวัยรุ่นอย่าง เป้ อารักษ์, เจี๊ยบ พิจิตตรา และตลกสาวแห่งปี ตุ๊กกี้ ชิงร้อย ชิงล้าน โดยเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงชีวิตของสาววัยเลข 3 ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า”Lucky in game, Unlucky in love” กันไหม แน่ล่ะสาว 30 คนที่เรากล่าวถึง เธอกำลังประสบปัญหาเรื่องนี้อยู่ ซึ่งเพื่อนซี้ของเธอ 2 คนเข้ามาร่วมกันพาสาวคนนี้ลงจากคานทองนิเวศน์ และได้พบกับผู้ช่วยหนุ่มที่จะมาพาเธอคนนี้ลงจากที่สูง แต่สุดท้ายแล้วผู้ช่วยคนเก่งกลับทำให้สาว 30 หวั่นไหวเสียเอง

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน
เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับดีเกือบทุกเรื่องสำหรับภาพยนตร์จากค่าย GTH และ Top Secret วัยรุ่นพันล้าน ก็เป็นภาพยนตร์ของค่ายอีกเรื่องที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจนติดโผภาพยนตร์สุดฮิตแห่งปี 2554 เข้ามาด้วย ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงนำอย่าง พีช พชร จิราธิวัฒน์ มาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของ ต๊อบ อิทธิพัฒน์ เจ้าของธุรกิจสาหร่ายอบกรอบ “เถ้าแก่น้อย”หนุ่มน้อยที่พลิกชีวิตตัวเองจากเด็กติดเกมส์ออนไลน์กลายมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มพันล้าน ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดดี ๆ กับวัยรุ่นไทยว่าจะใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จในการทำงานให้เร็วที่สุดได้อย่างไรแบบที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น แน่นอนว่าในเรื่องนี้จะรวมเอาเคล็ดลับและแนวคิดที่ทำให้ ต๊อบ อิทธิพัฒน์ ก้าวกระโดดมามีธุรกิจใหญ่โตในวัยที่ยังไม่ถึง 30 ได้ด้วยตัวของเขาเองไว้อย่างมากมาย ดูแล้วคุณจะต้องหวนคิดกลับไปทันทีว่า ตอนเราอายุเท่า ต๊อบ อิทธิพัฒน์ ในแต่ละช่วง เราทำอะไรไปบ้างแล้วเพื่อให้ชีวิตประสบความสำเร็จ

30 กำลังแจ๋ว

30 กำลังแจ๋ว

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ทำออกมาเอาใจสาว ๆ วัยเลข 3 จะเป็นภาพยนตร์เรื่องไหนไปไม่ได้นอกจาก”30 กำลังแจ๋ว” ที่ได้นางเอกสาวเซ็กซี่ตลอดกาล อั้ม พัชราภา มารับบทหญิงสาววัย 30 ที่มีหน้าที่การงานที่เพียบพร้อม และความรัก 7 ปี ที่น่าอิจฉากับกัปตันเครื่องบินหนุ่มรูปงาม ในวันฉลองการก้าวขึ้นอายุนำหน้าด้วยเลข 3 สาวเอเจนซี่โฆษณาที่ได้วาดฝันถึงที่ชีวิตที่สวยงามของเธอหลังแต่งงานกับกัปตันหนุ่ม ได้เล่าให้เขาฟังถึงความฝันอันสวยหวานของเธอ การแต่งงานมีครอบครัว มีโซ่ทองคล้องใจ แต่…กัปตันหนุ่มกลับหวงความโสดและหวั่นใจในอนาคตข้างหน้าจึงบอกเลิกเธอ ทำเอาสาวมั่นถึงกับเคว้งว่าในวัย 30 เธอจะไปเริ่มต้นใหม่กับใครที่ไหน ในวันฉลองวันเกิดขึ้นปีที่ 31 ของเธอ หนุ่มน้อย 2 คนได้โผล่เข้ามาในชีวิตเธอ คนหนึ่งเป็นผู้ช่วยสุดชิลล์ที่สามารถทำให้เอเจนซี่สาวสามารถชิลล์และยิ้มไปกับเขาได้เสียทุกเรื่อง และอีกหนึ่งหนุ่มคือหนุ่มน้อยหน้าตาแจ่มแจ๋วเจ้าของรอยยิ้มสดใส แววตาเต็มไปด้วยความร่าเริงเปิดเผย ที่มีความเชื่อว่าผู้ชายจะตายช้ากว่าผู้หญิง 7 ปี ซึ่งนั่นคือระยะห่างอายุของเอเจนซี่สาวกับทั้ง 2 หนุ่มนั่นเอง โดยนักแสดงที่มารับบทดังกล่าวคือ เคน ภูภูมิ ภานุพงศ์ ที่ถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แจ้งเกิด และทำให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงเลยทีเดียว

ฝนตกขึ้นฟ้า

ฝนตกขึ้นฟ้า

ปิดท้ายภาพยนตร์ฮอตของปี “ฝนตกขึ้นฟ้า”ฝีมือกำกับของ เป็นเอก รัตนเรือง นำแสดงโดย นพชัย ชัยนาม, คริส หอวัง โดยภาพยนตร์มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับตำรวจตงฉิน ผู้ซึ่งไม่ยอมรับสินบนคดียาเสพติดจากผู้มีอิทธิพล ผลคือตำรวจหนุ่มรายนี้ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุก หลังจากพ้นโทษเขาได้หันหลังให้ชีวิตที่ดำรงความยุติธรรมโดยการเข้าร่วมกับองค์กรมืดที่ตั้งขึ้นเพื่อกำจัดอธรรมด้วยวิธีเถื่อนชนเถื่อน ซึ่งเขาได้เป็นมือสังหาร แต่งานชิ้นล่าสุดเขาพลาดท่าถูกยิงเข้าที่ศีรษะแต่รอดตายหวุดหวิด เขาต้องนอนโคม่าอยู่ร่วมสามเดือน และเมื่อฟื้นขึ้นมาเขากลับเห็นภาพทุกอย่างกลับหัว เขาจึงตัดสินใจลาออกจากองค์กรและกลับไปบ้านเกิดในชนบทเพื่อมีชีวิตใหม่ที่สงบสุข แต่กรรมที่เขาทำไว้ในสมัยที่เป็นมือสังหารจะปล่อยให้เขาหลุดจากบ่วงของมันไปได้ง่าย ๆ จริงหรือ? ความชอบธรรมที่เขาเชื่อสนิทใจว่าเขามีส่วนสร้างมันขึ้นมานั้นเป็นความชอบธรรมจริงหรือ? และสมณเพศที่เขาตัดสินใจเข้าไปใช้ชีวิตอยู่นั้นจะสามารถให้ความสงบร่มเย็นกับคนบาปอย่างเขาได้จริงหรือ? ขอบอกได้คำเดียวว่าต้องไปลองติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันเอาเองจ้า

ครบแล้วสำหรับ 15 ภาพยนตร์ไทยสุดฮิตแห่งปี 2554 ที่ผมได้รวบรวมนำมาเสนอให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ไม่รู้ว่าจะมีภาพยนตร์เรื่องไหนโดนใจเพื่อน ๆ กันบ้างนะ ^^

ที่มา : http://movie.kapook.com/view35486.html

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว ภาพยนตร์ไทย

 

ปืนลดเสียง

ปืนลดเสียง คือปืนที่มีเครื่องบังคับเสียง (อังกฤษ: Suppressor) ให้เสียงลดลงมากกว่าปกติ หรือปืนที่ใช้กระสุนที่ออกแบบมาให้มีเสียงเบากว่าปกติ เพื่อป้องกันให้เสียงในการยิงปืนดังน้อยลง และป้องกันอันตรายที่เกิดจากเสียงดังของปืน อุปกรณ์ลดเสียงปืน จะแตกต่างจากอุปกรณ์เก็บเสียงปืน เพราะเป็นเพียงแค่การลดเสียงเท่านั้นเอง ปืนเก็บเสียง คือปืนที่มีเครื่องดับเสียง (อังกฤษ: Silencer) ให้ปืนที่ใช้กระสุนที่ออกแบบมาให้มีเสียงเบามาก ซึ่งจะถูกใช้ในการปฏิบัติการลับ เพื่อยิงปืนสู่เป้าหมายโดยไม่ให้เกิดเสียงเลย

ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/ปืนเก็บเสียง

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว ชนิดของปืน

 

ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง

ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) มีชื่อและตัวย่อภาษาอังกฤษว่า Recoilless Rifle หรือ Recoilless Gun (RCL) เป็นอาวุธต่อสู้รถถังมีความมุ่งหมายทางยุทธวิธี 2 ประการคือ ภารกิจหลักใช้ยิงต่อสู้รถถัง ส่วนภารกิจรองใช้ยิงสังหารบุคคลและทำลายสิ่งกำบัง จัดเป็นอาวุธวิถีราบลำกล้องเรียบ ทำการเล็งด้วยวิธีการเล็งตรง ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังจัดเป็นอาวุธประจำหน่วย มีวิถีราบ ภายในลำกล้องเรียบ ก่อนทำการยิงจะใช้การเล็งผ่านกล้องหรือใช้การยิงชี้เป้าก่อนด้วยปืนชี้ตำบลกระสุนถูกไปที่เป้าหมายแล้วทำการยิงปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังตามไปอีกที
ขณะทำการยิงนั้น พลยิง พลบรรจุกระสุน และผู้ที่อยู่รอบๆปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังจะต้องทำการอุดหูหรือใส่เครื่องป้องกันหู เนื่องจากอาวุธชนิดนี้มีเสียงดังในระดับที่เป็นอันตรายต่อโสตประสาท และไม่ควรไปยืนอยู่บริเวณท้ายลำกล้องของปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นบริเวณที่เปลวเพลิงจากการเผาไหม้ดินขับกระสุนจะออกมาในทิศทางนั้น

ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน สิงหาคม 23, 2012 นิ้ว ชนิดของปืน